คุณมีกุญแจกี่ดอก

ผมมีกุญแจอยู่ 3 ดอก หนึ่งคือกุญแจห้อง สองกุญแจรถ และดอกสุดท้ายคือกุญแจสำหรับไขที่ล็อกเกียร์ นี่เฉพาะกุญแจที่ผมพกติดตัว พอใขกุญแจเข้าไปในห้องก็ยังมีกุญแจลิ้นชัก กุญแจตู้ซึ่งล็อกเพื่อเก็บรักษาของสำคัญเอาไว้ แปลกดีที่ผมไม่มีกุญแจบ้าน เพราะเวลากลับบ้าน แค่โทร.บอกคุณแม่ก่อนที่จะขับรถไปถึง ประตูบ้านก็จะเปิดอ้าซ่ารออยู่เสมอ..
กุญแจทำงานกับล็อกเสมอ เมื่อมีกุญแจก็มีย่อมมีล็อก กุญแจที่ไม่มีล็อกนั้นไม่ต่างอะไรกับของเหลือใช้ไร้คุณค่า เป็นแค่เศษเหล็กเล็กๆ ที่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ขณะที่กุญแจที่เปิดล็อกได้นั้นมีความสำคัญมหาศาล หากอย่างรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหนอาจต้องลองทำมันหายดูสักครั้ง
กุญแจดอกเล็กๆ หมายความถึงคำอนุญาตให้เราผ่านเข้าไปในบ้านหรือไม่ ให้เราสตาร์ทรถได้หรือเปล่า หากคืนไหนไม่มีกุญแจบ้าน ชีวิตคืนนั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับคนไร้บ้าน มีรถแต่ไม่มีกุญแจรถ รถก็เป็นแค่กองเหล็กหนักๆ ที่มีล้อแค่เคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้
ว่าแต่.. ทำไมเราจึงต้องทำล็อกและกุญแจสำหรับบางสิ่งด้วยล่ะ?
สิ่งที่จำเป็นต้องมีกุญแจทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งมีค่า มีความสำคัญ และเสี่ยงต่อการถูกขโมย เราจึงต้องกั้นมันออกจากโลกใบใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใครก็เข้าถึงได้ให้มันไปอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง โลกของเรา โลกของเจ้าของกุญแจ ในโลกใบนั้นมีแต่ผู้มีกุญแจเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ คนอื่นๆ ที่หายใจอยู่ในโลกในเดียวกันนั้นไม่มีวันก้าวเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าบ้านของเราหรือห้องของเราจะตั้งอยู่บนโลกที่มีคนจำนวน 6 พันล้านคน แต่มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะได้เข้าไปในห้องของเรา ซึ่งจริงๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่กั้นเขาเอาไว้ระหว่างโลกใบนั้นกับโลกของเรา ก็เคือเหล็กแบนๆ ที่มีรอยหยักไปหยักมาที่เราเรียกมันว่า "กุญแจ" นี่เอง
กุญแจจึงมาพร้อมกับความเป็นเจ้าของ ใครไม่มีกุญแจก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของสิ่งนั้น หรือได้เข้าไปในพื้นที่แห่งนั้น แม้ว่าของชิ้นนั้นหรือห้องห้องนั้นจะอยู่ตรงหน้าก็ตามที แต่กุญแจที่จะไขล็อกหนึ่งล็อกนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ดอกเดียว เราสามารถปั๊มกุญแจได้ เมื่อปั๊มแล้วเราจะส่งกุญแจดอกนั้นให้ใคร? ใครที่เราไว้ใจมากพอ?
การยื่นกุญแจให้เป็นสัญลักษณ์ว่า "ยินดีต้อนรับสู่โลกของฉัน" นั่นเป็นความพิเศษหากระดับความไว้วางใจเท่าๆ กัน เมื่อเราหยิบยื่นกุญแจให้ใครสักคน เขาคนนั้นก็มักจะยื่นกุญแจของเขาให้เราเช่นกัน โลก 2 ใบที่เคยมีล็อกกั้นขวางเอาไว้ก็กลายเป็นไร้ล็อก เพราะทั้ง 2 คนต่างถือกุญแจของกันและกัน
กุญแจบอกกับเราว่าโลกใบนี้มีคนไม่น่าไว้วางใจมากมาย และเราคงเปิดประตูต้อนรับทุกคนเข้ามาสู่พื้นที่ส่วนตัวของเราไม่ได้ มันอันตรายเกินไป แต่การถือกุญแจห้องหรือกุญแจบ้านเอาไว้เพียงผู้เดียวก็อาจทำให้ห้องแห้งเหี่ยวหรือบ้านหลังนั้นเงียบเหงาเกินไปสักหน่อย เมื่อมีคนที่เราไว้ใจจึงควรไขล็อกให้เขาได้เข้ามาในโลกของเราบ้าง และถ้ารู้จักกันมากขึ้นจนเริ่มไว้ใจ ก็ไม่แปลกอะไรที่จะปั๊มกุญแจให้เขาสัก 1 ดอก
ในทางกลับกัน กุญแจยังบอกกับเราด้วยว่า ทุกคนต่างมีพื้นที่ส่วนตัวของเขา เราไม่ควรไปรุกล้ำในส่วนที่เขาล็อกกุญแจเอาไว้ ไม่ควรพยายามสะเดาะล็อก เพราะถ้าเขาล็อกเอาไว้นั่นแปลว่าเขาไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่มย่าม เราควรเคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน ไม่อย่างนั้นโลกนี้จะมีกุญแจเอาไว้ทำไม
เราเองก็เช่นกันนี่นา ถ้ามีสิ่งสำคัญที่อยากเก็บไว้ให้พ้นสายตาผู้คนก็ล็อกเก็บมันเอาไว้ได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยทุกสิ่งให้ทุกคนรู้ กระทั่งคนที่เรามอบกุญแจห้องให้เขาไป ก็อาจมีลิ้นชักบางลิ้นชักที่เราอยากล็อกเอาไว้บ้างเหมือนกัน คนเราน่าจะมีพื้นที่หนึ่งซึ่งเราถือกุญแจไว้เพียงผู้เดียว
นอกจากนั้นกุญแจยังบอกกับเราอีกว่า "กุญแจที่ไม่ใช่ ไขอย่างไรก็ไม่ออก" การปลดล็อกเปิดประตูเข้าไปในโลกของใครสักคนไม่ควรอาศัยความพยายาม ต่อให้มีกุญแจผี เจ้าของบ้านก็ไม่ยินดีต้อนรับ การปลดล็อกทางเข้าโลกใบนั้นให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้าน ผู้มาเยี่ยมอย่างเราทำได้เพียงกดกริ่ง หากเจ้าของบ้านยินดี เขาก็จะไขกุญแจให้เราเข้าไปเอง
ตอนเด็กๆ เราไม่มีกุญแจ จำนวนกุญแจจะเพิ่มขึ้นตามวัย เพราะเรามีสิ่งสำคัญที่ต้องเก็บรักษามากขึ้น และเราเริ่มรู้ว่า "ไม่ใช่ทุกคนในโลกที่น่าไว้ใจ" เมื่อเป็นผู้ใหญ่เราจึงมีพวงกุญแจ กุญแจเป็นสิ่งของชิ้นเล็กๆ ในชีวิต แต่มันสามารถไขเข้าไปสู่สิ่งที่สำคัญที่สุดได้
หากได้กุญแจจากใครมา จึงควรรักษาไว้ให้ดี
Thanks by นิ้วกลม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น